วัดเพียงหนึ่งเดียวขนานนามว่า”เซเรียวจิ”

 

วัดเซเรียวจิและพระพุทธรูปซังโกะคุเด็นไร

 

พระพุทธรูปที่ประดิษฐานที่วัดเซเรียวจิจัดให้เป็นสมบัติของชาติ   ในปี 985 พระสงฆ์ที่เดินทางไปแสวงบุญยังภูเขา Godaisan (ปี 938-1016) ได้สร้างขึ้นมา ในตอนนั้นนำพระพุทธรูปอินเดียยุคเก่าอายุราว 37 ปีมาเป็นแบบและแกะออกมา  ด้วยเหตุนี้จึงมีข้อสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปนี้มีทีมาจาก อินเดีย→จีน→ญี่ปุ่น  จึงมีการเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า ซังโกะคุเด็นไร「三国伝来の釈迦像」และเพราะใบหน้าของพระพุทธรูปมีลักษณะราวกับมนุษย์จริงๆ หลังจากนั้นจึงมีการสร้างพระพุทธรูป”แบบวัดเซเรียวจิ”ขึ้นมามากมาย จุดเด่นของพระพุทธรูปวัดเซเรียวจินั้นไม่ว่าจะเป็น ผมที่เหมือนเชือกม้วนเข้าด้วยกัน ลายกรีบผ้าม้วนเข้าหากันเป็นวงกลมแนบร่างกาย และใบหน้าที่แกะถูกแกะสลักออกมาอย่างประณีต ตามปกติจะประดิษฐานไว้ในหิ้งพระแบบญี่ปุ่นในห้องโถง หากต้องการเข้าไปชมจะต้องเสีย 1000เยน แต่ก็มีวันพิเศษที่ให้เข้าชมฟรีเช่นกันซึ่งจะเป็นวันที่8ของทุกเดือนนั่นเอง นอกจากนี้ก็จะมีวันพิธีเช็ดองค์พระพุทธรูปวันที่ 19 เมษายน และวันพิธีสารภาพบาปของสมาคมพุทธศาสนาวันที่ 6 – 8 ธันวาคม ก็สามารถเข้าไปชมฟรีได้เช่นกัน

นอกจากนี้ที่วัดเซเรียวจิมีสุสานคุบิซึกะของลูกชายคนที่สามของฮิเดโยชิโทโยโทมิ ขณะขุดสำรวจปราสาทโอซาก้าซันโนมารุ ก็พบกระโหลกศรีษะจากใกล้ๆฝั่งประตูทางตะวันออกเมื่อปีโชวะ55 หลังจากนั้นสำรวจในครั้งนั้น พบว่ามีหอยอาซาริกระจายทั่ว  พบกะโหลกของม้าถูกฝังรวมกันเหมือนของที่ใช้ในงานพิธีศพ  ร่องรอยอื่นๆที่ถูกฝังคาดว่าเป็นคนชั้นสูง หัวกะโหลกที่ขุดพบอายุราวคนในยุค 20- 30 จึงเสันนิษฐานว่าเป็นของหัวหน้าของฮิเดโยริ โทโมโตมิ  กล่าวกันว่าฮิเดโยริมีความเลื่อมใสในวัดเซเรียวจิจึงตัดสินใจสร้างสุสานคุบิซึกะที่นี่